การบรรลุธรรมในแต่ละขั้น คือ โสดาบัน, สกิทาคามี, อนาคามี และอรหันต์ ต้องใช้เวลาเท่าไร ภายในชาติเดียว หรือข้ามภพข้ามชาติ
แสดงธรรมโดย พระอาจารย์ คึกฤทธิ์ โสตฺถิผโล วัดนาป่าพง ลำลูกกา คลอง ๑๐ ปทุมธานี ดาวน์โหลด mp3 : คลิกที่นี่เสียง
พระสูตรที่เกี่ยวข้อง
อริยสัจสี่เป็นที่ตั้งแห่งการแสดงตัวของปัญญินทรีย์
ภิกษุทั้งหลาย ! อินทรีย์ ๕ อย่างเหล่านี้ มีอยู่. ห้าอย่างเหล่าไหนเล่า ?
ห้าอย่างคือ สัทธินทรีย์ วิริยินทรีย์ สตินทรีย์ สมาธินทรีย์ และปัญญินทรีย์.
ภิกษุทั้งหลาย ! สัทธินทรีย์ จะเห็นได้ในที่ไหนเล่า ? สัทธินทรีย์ เห็นได้ใน โสตาปัตติยังคะสี่.
ภิกษุทั้งหลาย ! วิริยินทรีย์ จะเห็นได้ในที่ไหนเล่า ? วิริยินทรีย์ เห็นได้ใน สัมมัปปธานสี่.
ภิกษุทั้งหลาย ! สตินทรีย์ จะเห็นได้ในที่ไหนเล่า ? สตินทรีย์ เห็นได้ใน สติปัฏฐานสี่.
ภิกษุทั้งหลาย ! สมาธินทรีย์ จะเห็นได้ในที่ไหนเล่า ? สมาธินทรีย์ เห็นได้ใน ฌานสี่.
ภิกษุทั้งหลาย ! ปัญญินทรีย์ จะเห็นได้ในที่ไหนเล่า ? ปัญญินทรีย์ เห็นได้ใน อริยสัจสี่.
ภิกษุทั้งหลาย ! เหล่านี้แล อินทรีย์ ๕ อย่าง. . . . .
อริยสัจจากพระโอษฐ์ ภาคปลาย หน้า ๑๕๑๕
(บาลี) มหาวาร. สํ. ๑๙/๒๕๙/๘๕๒-๘๕๗. : คลิกดูพระสูตร
พระอริยบุคคลมีหลายระดับ
เพราะอินทรีย์ยิ่งหย่อนกว่ากัน
ภิกษุทั้งหลาย ! อินทรีย์ทั้งหลาย ๕ ประการเหล่านี้ มีอยู่. ห้าประการ อย่างไรเล่า ?
ห้าประการคือ สัทธินทรีย์ วิริยินทรีย์ สตินทรีย์ สมาธินทรีย์ ปัญญินทรีย์. ภิกษุทั้งหลาย ! เหล่านี้แล อินทรีย์ห้าประการ.
ภิกษุทั้งหลาย ! เพราะความเพียบพร้อมบริบูรณ์แห่งอินทรีย์ห้าประการเหล่านี้แล ผู้ปฏิบัติย่อมเป็นพระอรหันต์.
เพราะอินทรีย์ทั้งหลายหย่อนกว่านั้น ผู้ปฏิบัติย่อมเป็น อันตราปรินิพพายี.
เพราะอินทรีย์ทั้งหลายหย่อนกว่านั้นอีก ผู้ปฏิบัติย่อมเป็น อุปหัจจปรินิพพายี.
เพราะอินทรีย์ทั้งหลายหย่อนกว่านั้นอีก ผู้ปฏิบัติย่อมเป็น อสังขารปรินิพพายี.
เพราะอินทรีย์ทั้งหลายหย่อนกว่านั้นอีก ผู้ปฏิบัติย่อมเป็น สสังขารปรินิพพายี.
เพราะอินทรีย์ทั้งหลายหย่อนกว่านั้นอีก ผู้ปฏิบัติย่อมเป็น อุทธํโสโตอกนิฏฐคามี.
เพราะอินทรีย์ทั้งหลายหย่อนกว่านั้นอีก ผู้ปฏิบัติย่อมเป็น สกทาคามี.
เพราะอินทรีย์ทั้งหลายหย่อนกว่านั้นอีก ผู้ปฏิบัติย่อมเป็น เอกพีชี.
เพราะอินทรีย์ทั้งหลายหย่อนกว่านั้นอีก ผู้ปฏิบัติย่อมเป็น โกลังโกละ.
เพราะอินทรีย์ทั้งหลายหย่อนกว่านั้นอีก ผู้ปฏิบัติย่อมเป็น สัตตักขัตตุปรมะ.
เพราะอินทรีย์ทั้งหลายหย่อนกว่านั้นอีก ผู้ปฏิบัติย่อมเป็น ธัมมานุสารี.
เพราะอินทรีย์ทั้งหลายหย่อนกว่านั้นอีก ผู้ปฏิบัติย่อมเป็น สัทธานุสารี.
.... (๑๙/๒๖๗/๘๘๕) : ภิกษุทั้งหลาย ! เพราะเหตุนี้แล ความต่างแห่งผลย่อมมี เพราะความต่างแห่งอินทรีย์ ; เพราะความต่างแห่งผล จึงมีความต่างแห่งบุคคล แล.
.... (๑๙/๒๖๗/๘๘๗) : ภิกษุทั้งหลาย ! ด้วยเหตุอย่างนี้แล เป็นอันว่า ผู้กระทำให้บริบูรณ์ ย่อมทำให้สำเร็จได้บริบูรณ์ ; ผู้กระทำได้เพียงบางส่วน ก็ทำให้สำเร็จได้บางส่วน.
ภิกษุทั้งหลาย ! เรากล่าวว่าอินทรีย์ทั้งหลายห้า ย่อมไม่เป็นหมันเลย ดังนี้แล.
อริยสัจจากพระโอษฐ์ ภาคต้น หน้า ๖๘๗
(บาลี) มหาวาร. สํ. ๑๙/๒๗๑/๘๙๙-๙๐๐. : คลิกดูพระสูตร
อินทรีย์อีก ๕ อย่าง
๑. สัทธินทรีย์ [อินทรีย์คือศรัทธา]
๒. วิริยินทรีย์ [อินทรีย์คือวิริยะ]
๓. สตินทรีย์ [อินทรีย์คือสติ]
๔. สมาธินทรีย์ [อินทรีย์คือสมาธิ]
๕. ปัญญินทรีย์ [อินทรีย์คือปัญญา]
(ภาษาไทย) ปา. ที. ๑๑/๒๐๓/๓๐๐ : คลิกดูพระสูตร
พระโสดาบันละสังโยชน์ได้สามข้อ
มีสามจำพวก
ภิกษุนั้น,
เพราะความสิ้นไปรอบแห่งสังโยชน์สาม
เป็นผู้สัตตักขัตตุปรมะ ยังต้องท่องเที่ยวไปในภพ
แห่งเทวดาและมนุษย์อีกเจ็ดครั้ง เป็นอย่างมาก แล้ว
ย่อมกระทำที่สุดแห่งทุกข์ได้.
(หรือว่า) ภิกษุนั้น, เพราะความสิ้นไปรอบแห่ง
สังโยชน์สาม เป็นผู้โกลังโกละ จักต้องท่องเที่ยวไปสู่สกุล
อีกสองหรือสามครั้ง แล้วย่อมกระทำที่สุดแห่งทุกข์ได้.
(หรือว่า) ภิกษุนั้น, เพราะความสิ้นไปรอบแห่ง
สังโยชน์สาม เป็นผู้เป็นเอกพีชี คือ จักเกิดในภพแห่งมนุษย์
อีกหนเดียวเท่านั้น แล้วย่อมกระทำที่สุดแห่งทุกข์ได้.
หนังสือคุณสมบัติโสดาบัน หน้า ๓๐
(บาลี)ติก. อํ. ๒๐/๒๙๙-๓๐๑/๕๒๗ : คลิกดูพระสูตร