อุปมาเรื่องใบไม้ในกำมือมีแง่มุมอย่างไร และผู้ที่มักยกอุปมานี้มาใช้แบบผิดๆ คืออย่างไร
พระสูตรที่เกี่ยวข้อง
พระผู้มีพระภาคเจ้า ทรงกำใบไมสีสปา ที่ร่วงอยู่ตามพื้นดินขึ้นมาหน่อยหนึ่ง แล้วตรัสแก่ภิกษุทั้งหลายว่า :
ภิกษุทั้งหลาย ! เธอทั้งหลายเข้าใจว่าอย่างไร, ใบไม้สีสปาที่เรากำขึ้นหน่อยหนึ่งนี้มาก หรือว่าใบไม้สีสปาที่ยังอยู่บนต้นเหล่านั้นมีมาก ?
“ข้าแต่พระองค์ผู้จริญ ! ใบไม้ที่พระผู้มีพระภาคทรงกำขึ้นหน่อยหนึ่งนั้นเป็น ของน้อย ส่วนใบไม้ยังอยู่บนต้น สีสปาเหล่า นั้นย่อมมีมาก”.
ภิกษุทั้งหลาย ! ฉันใดก็ฉันนั้น ธรรมะส่วนที่เรารู้ยิ่งด้วยปัญญาอันยิ่ง แล้วไม่กล่าวสอนนั้น มีมากกว่าส่วนที่นำมาสอน.
ภิกษุทั้งหลาย ! เหตุไรเล่า เราจึงไม่กล่าวสอนธรรมะส่วนนั้นๆ ?
ภิกษุทั้งหลาย ! เพราะเหตุว่า ธรรมะส่วนนั้นๆ
ไม่ประกอบอยู่ด้วยประโยชน์ ไม่เป็นเงื่อนต้นแห่งพรหมจรรย์
ไม่เป็นไปเพื่อความหน่าย ไม่เป็นไปเพื่อความคลายกำหนัด
ไม่เป็นไปเพื่อความดับ ไม่เป็นไปเพื่อความสงบ ไม่เป็น
ไปเพื่อความรู้ยิ่ง ไม่เป็นเพื่อความรู้พร้อม
ไม่เป็นไปเพื่อนิพพาน, ฉะนั้น เราจึงไม่กล่าวสอน.
ภิกษุทั้งหลาย ! ธรรมะอะไรเล่า เป็นธรรมะที่เรากล่าวสอน ?
ภิกษุทั้งหลาย ! ธรรมะที่เรากล่าวสอน คือ ข้อที่ว่า
ความทุกข์เป็นอย่างนี้ๆ,
เหตุเป็นที่เกิดของความทุกข์เป็นอย่างนี้ๆ,
ความดับสนิทของความทุกข์เป็นอย่างนี้ๆ, ข้อปฏิบัติเพื่อถึงความดับสนิทของความทุกข์เป็นอย่างนี้ๆ .
ภิกษุทั้งหลาย ! เพราะเหตุไรเล่า ธรรมะส่วนนี้เราจึงนำมากล่าวสอน ?
ภิกษุทั้งหลาย ! เพราะว่าธรรมะส่วนนี้ ประกอบอยู่ด้วยประโยชน์
เป็นเงื่อนต้นแห่งพรหมจรรย์ เป็นไปเพื่อความหน่าย
เป็นไปเพื่อความคลายกำหนัด
เป็นไปเพื่อความดับ เป็นไปเพื่อความสงบ
เป็นไปเพื่อความรู้ยิ่ง
เป็นไปเพื่อความรู้พร้อม เป็นไปเพื่อนิพพาน,
เพราะเหตุนั้นแล เราจึงนำมากล่าวสอน.
พุทธประวัติจากพระโอษฐ์ หน้า ๒๘๔
(ไทย)มหาวาร. สํ. ๑๙/๔๓๔/๑๗๑๒ : คลิกดูพระสูตร
(บาลี)มหาวาร. สํ. ๑๙/๕๔๘/๑๗๑๒ : คลิกดูพระสูตร