"ระหว่างแห่งโลกทั้ง ๒" หรือ "โลกไหนๆ" คือโลกที่ไม่มีสถานที่เกิดอีก หมายความว่าอย่างไร
พระสูตรที่เกี่ยวข้อง
ภิกษุทั้งหลาย ! ถ้าบุคคลย่อมคิด (เจเตติ) ถึงสิ่งใดอยู่ ย่อมดำริ(ปกปฺเปติ) ถึงสิ่งใดอยู่ และ ย่อมมีจิตฝังลงไป (อนุเสติ)ในสิ่งใดอยู่ สิ่งนั้นย่อมเป็นอารมณ์ เพื่อการตั้งอยู่แห่ง วิญญาณ เมื่ออารมณ์มีอยู่ ความตั้งขึ้นเฉพาะแห่งวิญญาณย่อมมี เมื่อวิญญาณนั้น ตั้งขึ้นเฉพาะ เจริญงอกงามแล้ว ความเกิดขึ้นแห่งภพใหม่ต่อไป ย่อมมี
เมื่อความเกิดขึ้นแห่งภพใหม่ต่อไปมีอยู่ ชาติ ชรา มรณะ โสกะปริเทวะทุกขะโทมนัส อุปายาสทั้งหลาย จึงเกิดขึ้นครบถ้วน ความเกิดขึ้นพร้อมแห่งกองทุกข์ทั้งสิ้นนี้ ย่อมมีด้วย อาการอย่างนี้.
ภิกษุทั้งหลาย ! ถ้าบุคคลไม่คิด (เจเตติ) ถึงสิ่งใดอยู่ ย่อมไม่ดำริ(ปกปฺเปติ) ถึงสิ่งใดอยู่ แต่เขายังมีจิตฝังลงไป (อนุเสติ)ในสิ่งใดอยู่ สิ่งนั้นย่อมเป็นอารมณ์ เพื่อการตั้งอยู่แห่ง วิญญาณ เมื่ออารมณ์มีอยู่ ความตั้งขึ้นเฉพาะแห่งวิญญาณย่อมมี เมื่อวิญญาณนั้น ตั้งขึ้นเฉพาะ เจริญงอกงามแล้ว ความเกิดขึ้นแห่งภพใหม่ต่อไป ย่อมมี
เมื่อความเกิดขึ้นแห่งภพใหม่ต่อไปมีอยู่ ชาติ ชรา มรณะ โสกะปริเทวะทุกขะโทมนัส อุปายาสทั้งหลาย จึงเกิดขึ้นครบถ้วน ความเกิดขึ้นพร้อมแห่งกองทุกข์ทั้งสิ้นนี้ ย่อมมีด้วย อาการอย่างนี้.
ภิกษุทั้งหลาย ! ถ้าบุคคลไม่คิด (เจเตติ) ถึงสิ่งใดอยู่ ย่อมไม่ดำริ(ปกปฺเปติ) ถึงสิ่งใดอยู่ และ ย่อมไม่มีจิตฝังลงไป (อนุเสติ)ในสิ่งใดอยู่ ในกาลใด ในกาลนั้น สิ่งนั้นย่อมไม่เป็นอารมณ์ เพื่อการตั้งอยู่แห่งวิญญาณได้เลย เมื่ออารมณ์ไม่มี ความตั้งขึ้นเฉพาะแห่งวิญญาณย่อมไม่มี
เมื่อวิญญาณนั้นไม่ตั้งขึ้นเฉพาะ ไม่เจริญงอกงามแล้ว ความเกิดขึ้นแห่งภพใหม่ต่อไป ย่อมไม่มี
เมื่อความเกิดขึ้นแห่งภพใหม่ต่อไปไม่มี ชาติ ชรา มรณะ โสกะปริเทวะทุกขะโทมนัส
อุปายาสทั้งหลาย จึงดับสิ้น ความดับลงแห่งกองทุกข์ทั้งสิ้นนี้ ย่อมมีด้วยอาการอย่างนี้ ดังนี้แล.
(ไทย) นิทาน. สํ. ๑๖ / ๖๓ / ๑๔๕. : คลิกดูพระสูตร
(บาลี) นิทาน. สํ. ๑๖ / ๗๘ / ๑๔๕. : คลิกดูพระสูตร