พระอรหันต์แตกต่างจากพระพุทธเจ้าอย่างไร แม้ว่าจะไปเสมอกันที่วิมุตติก็ตาม
พระสูตรที่เกี่ยวข้อง
ภิกษุท.! ตถาคตผู้อรหันตสัมมาสัมพุทธะหลุดพ้นแล้วจากรูป
เพราะความเบื่อหน่ายความคลายกำหนัดความดับและความไม่ยึดมั่นจึงได้
นามว่า "สัมมาสัมพุทธะ".
ภิกษุท.! แม้ภิกษุผู้ปัญญาวิมุตต์ก็หลุดพ้นแล้ว
จากรูปเพราะความเบื่อหน่ายความคลายกำหนัดความดับและความไม่ยึด
มั่นจึงได้นามว่า "ปัญญาวิมุตต์".
(ในกรณีแห่งเวทนาสัญญาสังขารและวิญญาณก็ได้ตรัสไว้มีข้อความ
แสดงหลักเกณฑ์อย่างเดียวกันกับในกรณีแห่งรูปที่กล่าวแล้ว).
ภิกษุท.! เมื่อเป็นผู้หลุดพ้นจากรูปเป็นต้นด้วยกันทั้งสองพวกแล้ว
อะไรเป็นความผิดแผกแตกต่างกันอะไรเป็นความมุ่งหมายที่แตกต่างกันอะไร
เป็นเครื่องกระทำให้แตกต่างกันระหว่างตถาคตผู้อรหันตสัมมาสัมพุทธะกับ
ภิกษุผู้ปัญญาวิมุตต์ ?
ภิกษุท.! ตถาคตผู้อรหันตสัมมาสัมพุทธะ ได้ทำมรรคที่ยังไม่เกิด ให้เกิดขึ้นได้ทำมรรคที่ยังไม่มีใครรู้ให้มีคนรู้ได้
ทำมรรคที่ยังไม่มีใครกล่าวให้ เป็นมรรคที่กล่าวกันแล้ว ตถาคตเป็นมัคคัญญู (รู้มรรค) เป็นมัคควิทู (รู้แจ้งมรรค)
เป็นมัคคโกวิโท (ฉลาดในมมรค). ภิกษุท.! ส่วนสาวกทั้งหลายในกาลนี้เป็นมัคคานุคา (ผู้เดินตามมรรค)
เป็นผู้ตามมาในภายหลัง.
ภิกษุท.! นี้แลเป็นความผิดแผกแตกต่างกันเป็นความมุ่งหมาย ที่แตกต่างกันเป็นเครื่องกระทำให้แตกต่างกัน
ระหว่างตถาคตผู้อรหันตสัมมาสัมพุทธะกับภิกษุผู้ปัญญาวิมุตต์.
(ไทย)ขนฺธ. สํ. ๑๗/๖๓/๑๒๕.คลิกดูพระสูตร
(บาลี)ขนฺธ. สํ. ๑๗/๘๐/๑๒๕.คลิกดูพระสูตร
ดูกรภิกษุทั้งหลายมหาโจร๕จำพวกนี้มีปรากฏอยู่ในโลก
มหาโจร ๕ จำพวกเป็นไฉน
๑. ดูกรภิกษุทั้งหลายมหาโจรบางคนในโลกนี้ย่อมปรารถนาอย่างนี้ว่าเมื่อไรหนอ
เราจักเป็นผู้อันบุรุษร้อยหนึ่งหรือพันหนึ่งแวดล้อมแล้วท่องเที่ยวไปในคามนิคมและราชธานี
เบียดเบียนเองให้ผู้อื่นเบียดเบียนตัดเองให้ผู้อื่นตัดเผาผลาญเองให้ผู้อื่นเผาผลาญ
สมัยต่อมาเขาเป็นผู้อันบุรุษร้อยหนึ่งหรือพันหนึ่งแวดล้อมแล้วเที่ยวไปในคามนิคมและ
ราชธานีเบียดเบียนเองให้ผู้อื่นเบียดเบียนตัดเองให้ผู้อื่นตัดเผาผลาญเองให้ผู้อื่น
เผาผลาญฉันใดดูกรภิกษุทั้งหลายภิกษุผู้เลวทรามบางรูปในธรรมวินัยนี้ก็ฉันนั้นเหมือนกันแล
ย่อมปรารถนาอย่างนี้ว่าเมื่อไรหนอเราจึงจักเป็นผู้อันภิกษุร้อยหนึ่งหรือพันหนึ่งแวดล้อมแล้ว
เที่ยวจาริกไปในคามนิคมและราชธานีอันคฤหัสถ์และบรรพชิตสักการะเคารพนับถือบูชา
ยำเกรงได้จีวรบิณฑบาตเสนาสนะและคิลานปัจจัยเภสัชบริขารสมัยต่อมาเธอเป็นผู้
อันภิกษุร้อยหนึ่งหรือพันหนึ่งแวดล้อมแล้วเที่ยวจาริกไปในคามนิคมและราชธานีอันคฤหัสถ์
และบรรพชิตสักการะเคารพนับถือบูชายำเกรงแล้วได้จีวรบิณฑบาตเสนาสนะ
และคิลานปัจจัยเภสัชบริขารทั้งหลายดูกรภิกษุทั้งหลายนี้เป็นมหาโจรจำพวกที่๑มีปรากฏอยู่
ในโลก
๒. ดูกรภิกษุทั้งหลายอีกข้อหนึ่งภิกษุผู้เลวทรามบางรูปในธรรมวินัยนี้เล่าเรียน
ธรรมวินัยอันตถาคตประกาศแล้วย่อมยกตนขึ้นดูกรภิกษุทั้งหลายนี้เป็นมหาโจรจำพวกที่๒
มีปรากฏอยู่ในโลก
๓. ดูกรภิกษุทั้งหลายอีกข้อหนึ่งภิกษุผู้เลวทรามบางรูปในธรรมวินัยนี้ย่อมตามกำจัด
เพื่อนพรหมจารีผู้หมดจดผู้ประพฤติพรหมจรรย์อันบริสุทธิ์อยู่ด้วยธรรมอันเป็นข้าศึกแก่
พรหมจรรย์อันหามูลมิได้ดูกรภิกษุทั้งหลายนี้เป็นมหาโจรจำพวกที่๓มีปรากฏอยู่ในโลก
๔. ดูกรภิกษุทั้งหลายอีกข้อหนึ่งภิกษุผู้เลวทรามบางรูปในธรรมวินัยนี้ย่อมสงเคราะห์
เกลี้ยกล่อมคฤหัสถ์ทั้งหลายด้วยครุภัณฑ์ครุบริขารของสงฆ์คืออารามพื้นที่อาราม
วิหารพื้นที่วิหารเตียงตั่งฟูกหมอนหม้อโลหะอ่างโลหะกระถางโลหะกระทะโลหะ
มีดขวานผึ่งจอบสว่านเถาวัลย์ไม้ไผ่หญ้ามุงกระต่ายหญ้าปล้องหญ้าสามัญดินเหนียว
เครื่องไม้เครื่องดินดูกรภิกษุทั้งหลายนี้เป็นมหาโจรจำพวกที่๔มีปรากฏอยู่ในโลก
๕. ดูกรภิกษุทั้งหลายภิกษุผู้กล่าวอวดอุตตริมนุสสธรรมอันไม่มีอยู่อันไม่เป็นจริง
นี้จัดเป็นยอดมหาโจรในโลกพร้อมทั้งเทวโลกมารโลกพรหมโลกในหมู่สัตว์พร้อมทั้งสมณะ
พราหมณ์เทวดาและมนุษย์ข้อนั้นเพราะเหตุไรเพราะภิกษุนั้นฉันก้อนข้าวของชาว
แว่นแคว้นด้วยอาการแห่งคนขโมย.
(ไทย) มหาวิ.วิ.๑/๓๓๒/๒๓๐:คลิกดูพระสูตร
(บาลี) มหาวิ.วิ.๑/๑๖๙/๒๓๐:คลิกดูพระสูตร