Buddhawajana FAQ

Thai (th)English (UK)

โสดาบัน เห็นเกิด-ดับ อย่างไร

ให้เรตสมาชิก
ไม่ดีดี 

 

วิดีโอ


บรรยายธรรมโดย พระอาจารย์ คึกฤทธิ์ โสตฺถิผโล วัดนาป่าพง

 วัดนาป่าพง ลำลูกกา คลอง ๑๐ ปทุมธานี

 ดาวน์โหลด : คลิกที่นี่

{/tab}

 

 

ผู้รู้ปฏิจจสมุปบาทแต่ละสายโดยนัย แห่งอริยสัจสี่ ทั้งปัจจุบัน อดีต อนาคต ชื่อว่าโสดาบัน (ญาณวัตถุ ๔๔)

ภิกษุทั้งหลาย ! เราจักแสดง ซึ่งญาณวัตถุ ๔๔ อย่างแก่พวกเธอทั้งหลาย. พวกเธอทั้งหลายจงฟังข้อความนั้น จงกระทำในใจให้สำเร็จประโยชน์, เราจักกล่าวบัดนี้.

ครั้นภิกษุทั้งหลาย ! เหล่านั้น ทูลรับสนองพระพุทธดำรัสแล้ว พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสถ้อยคำเหล่านี้ ว่า :-

ภิกษุทั้งหลาย ! ก็ ญาณวัตถุ ๔๔ อย่าง เป็นอย่างไรเล่า ? ญาณวัตถุ ๔๔ อย่าง คือ :-

(หมวด ๑)

. ญาณ คือ ความรู้ ในชรามรณะ; . ญาณ คือ ความรู้ ในเหตุให้เกิดขึ้นแห่งชรามรณะ; . ญาณ คือ ความรู้ ในความดับไม่เหลือแห่งชรามรณะ; . ญาณ คือ ความรู้ ในข้อปฏิบัติเครื่องทำสัตว์ให้ลุถึงความดับไม่เหลือแห่งชรามรณะ;

(หมวด ๒)

. ญาณ คือ ความรู้ ในชาติ; . ญาณ คือ ความรู้ ในเหตุให้เกิดขึ้นแห่งชาติ; . ญาณ คือ ความรู้ ในความดับไม่เหลือแห่งชาติ; . ญาณ คือ ความรู้ ในข้อปฏิบัติเครื่องทำสัตว์ให้ลุถึงความดับไม่เหลือแห่งชาติ;

(หมวด ๓)

. ญาณ คือ ความรู้ ในภพ; . ญาณ คือ ความรู้ ในเหตุให้เกิดขึ้นแห่งภพ; . ญาณ คือ ความรู้ ในความดับไม่เหลือแห่งภพ; . ญาณ คือ ความรู้ ในข้อปฏิบัติเครื่องทำสัตว์ให้ลุถึงความดับไม่เหลือแห่งภพ;

(หมวด ๔)

. ญาณ คือ ความรู้ ในอุปาทาน; . ญาณ คือ ความรู้ ในเหตุให้เกิดขึ้นแห่งอุปาทาน; . ญาณ คือ ความรู้ ในความดับไม่เหลือแห่งอุปาทาน; . ญาณ คือ ความรู้ ในข้อปฏิบัติเครื่องทำสัตว์ให้ลุถึงความดับไม่เหลือแห่งอุปาทาน;

(หมวด ๕)

. ญาณ คือ ความรู้ ในตัณหา; . ญาณ คือ ความรู้ ในเหตุให้เกิดขึ้นแห่งตัณหา; . ญาณ คือ ความรู้ ในความดับไม่เหลือแห่งตัณหา; . ญาณ คือ ความรู้ ในข้อปฏิบัติเครื่องทำสัตว์ให้ลุถึงความดับไม่เหลือแห่งตัณหา;

(หมวด ๖)

. ญาณ คือ ความรู้ ในเวทนา; . ญาณ คือ ความรู้ ในเหตุให้เกิดขึ้นแห่งเวทนา; . ญาณ คือ ความรู้ ในความดับไม่เหลือแห่งเวทนา; . ญาณ คือ ความรู้ ในข้อปฏิบัติเครื่องทำสัตว์ให้ลุถึงความดับไม่เหลือแห่งเวทนา;

(หมวด ๗)

. ญาณ คือ ความรู้ ในผัสสะ; . ญาณ คือ ความรู้ ในเหตุให้เกิดขึ้นแห่งผัสสะ; . ญาณ คือ ความรู้ ในความดับไม่เหลือแห่งผัสสะ; . ญาณ คือ ความรู้ ในข้อปฏิบัติเครื่องทำสัตว์ให้ลุถึงความดับไม่เหลือแห่งผัสสะ;

(หมวด ๘)

. ญาณ คือ ความรู้ ในสฬายตนะ; . ญาณ คือ ความรู้ ในเหตุให้เกิดขึ้นแห่งสฬายตนะ; . ญาณ คือ ความรู้ ในความดับไม่เหลือแห่งสฬายตนะ; . ญาณ คือ ความรู้ ในข้อปฏิบัติเครื่องทำสัตว์ให้ลุถึงความดับไม่เหลือแห่งสฬายตนะ;

(หมวด ๙)

. ญาณ คือ ความรู้ ในนามรูป; . ญาณ คือ ความรู้ ในเหตุให้เกิดขึ้นแห่งนามรูป; . ญาณ คือ ความรู้ ในความดับไม่เหลือแห่งนามรูป; . ญาณ คือ ความรู้ ในข้อปฏิบัติเครื่องทำสัตว์ให้ลุถึงความดับไม่เหลือแห่งนามรูป;

(หมวด ๑๐)

. ญาณ คือ ความรู้ ในวิญญาณ; . ญาณ คือ ความรู้ ในเหตุให้เกิดขึ้นแห่งวิญญาณ; . ญาณ คือ ความรู้ ในความดับไม่เหลือแห่งวิญญาณ; . ญาณ คือ ความรู้ ในข้อปฏิบัติเครื่องทำสัตว์ให้ลุถึงความดับไม่เหลือแห่งวิญญาณ;

(หมวด ๑๑)

. ญาณ คือ ความรู้ ในสังขารทั้งหลาย; . ญาณ คือ ความรู้ ในเหตุให้เกิดขึ้นแห่งสังขาร; . ญาณ คือ ความรู้ ในความดับไม่เหลือแห่งสังขาร; . ญาณ คือ ความรู้ ในข้อปฏิบัติเครื่องทำสัตว์ให้ลุถึงความดับไม่เหลือแห่งสังขาร

ภิกษุทั้งหลาย ! เหล่านี้เรียกว่า ญาณวัตถุ ๔๔ อย่าง.

 

(ภาษาไทย) นิทาน. สํ. ๑๖/๕๒-๕๕/๑๑๘-๑๒๕ : คลิกดูพระสูตร

 

ผู้รู้ปฏิจจสมุปบาทแต่ละสายถึงเหตุเกิดและความดับทั้งปัจจุบัน อดีต อนาคต ก็ชื่อว่าโสดาบัน (ญาณวัตถุ ๗๗)

 

ภิกษุทั้งหลาย ! เราจักแสดง ซึ่งญาณวัตถุ ๗๗ อย่างแก่พวกเธอทั้งหลาย. พวกเธอทั้งหลายจงฟังความข้อนั้น,จงทำในใจให้สำเร็จประโยชน์, เราจักกล่าวบัดนี้.

 

ครั้นภิกษุทั้งหลายเหล่านั้นทูลรับสนองพระพุทธดำรัสนั้นแล้ว พระผู้มีพระภาคเจ้า ได้ตรัสถ้อยคำเหล่านี้ว่า :-

 

ภิกษุทั้งหลาย ! ก็ ญาณวัตถุ ๗๗ อย่าง เป็นอย่างไรเล่า ? ญาณวัตถุ ๗๗ อย่างนั้น คือ :-

 

(หมวด ๑)

 

. ญาณ คือ ความรู้ว่า เพราะมีชาติเป็นปัจจัย จึงมีชรามรณะ; . ญาณ คือ ความรู้ว่า เมื่อชาติไม่มี ชรามรณะ ย่อมไม่มี; . ญาณ คือ ความรู้ว่า แม้ในกาลยืดยาวนานฝ่ายอดีต เพราะมีชาติเป็นปัจจัย จึงมีชรามรณะ; . ญาณ คือ ความรู้ว่า แม้ในกาลยืดยาวนานฝ่ายอดีต เมื่อชาติไม่มี ชรามรณะย่อมไม่มี; . ญาณ คือ ความรู้ว่า แม้ในกาลยืดยาวนานฝ่ายอนาคต เพราะมีชาติเป็นปัจจัย จึงมีชรามรณะ; . ญาณ คือ ความรู้ว่า แม้ในกาลยืดยาวนานฝ่ายอนาคต เมื่อชาติไม่มี ชรามรณะย่อมไม่มี; . ญาณ คือ ความรู้ว่า แม้ ธัมมัฏฐิติญาณ ในกรณีนี้ ก็มีความสิ้นไป เสื่อมไป จางไป ดับไป เป็นธรรมดา;

 

(หมวด ๒)

 

. ญาณ คือ ความรู้ว่า เพราะมีภพเป็นปัจจัย จึงมีชาติ; . ญาณ คือ ความรู้ว่า เมื่อภพไม่มี ชาติย่อมไม่มี; . ญาณ คือ ความรู้ว่า แม้ในกาลยืดยาวนานฝ่ายอดีต เพราะมีภพเป็นปัจจัย จึงมีชาติ; . ญาณ คือ ความรู้ว่า แม้ในกาลยืดยาวนานฝ่ายอดีต เมื่อภพไม่มี ชาติย่อมไม่มี; . ญาณ คือ ความรู้ว่า แม้ในกาลยืดยาวนานฝ่ายอนาคต เพราะมีภพเป็นปัจจัย จึงมีชาติ; . ญาณ คือ ความรู้ว่า แม้ในกาลยืดยาวนานฝ่ายอนาคต เมื่อภพไม่มี ชาติย่อมไม่มี; . ญาณ คือ ความรู้ว่า แม้ ธัมมัฏฐิติญาณ ในกรณีนี้ ก็มีความสิ้นไป เสื่อมไป จางไป ดับไป เป็นธรรมดา;

 

(หมวด ๓)

 

. ญาณ คือ ความรู้ว่า เพราะมีอุปาทานเป็นปัจจัยจึงมีภพ; . ญาณ คือ ความรู้ว่า เมื่ออุปาทานไม่มี ภพย่อมไม่มี; . ญาณ คือ ความรู้ว่า แม้ในกาลยืดยาวนานฝ่ายอดีต เพราะมีอุปาทานเป็นปัจจัย จึงมีภพ; . ญาณ คือ ความรู้ว่า แม้ในกาลยืดยาวนานฝ่ายอดีต เมื่ออุปาทานไม่มี ภพย่อมไม่มี; . ญาณ คือ ความรู้ว่า แม้ในกาลยืดยาวนานฝ่ายอนาคต เพราะมีอุปาทานเป็นปัจจัย จึงมีภพ; . ญาณ คือ ความรู้ว่า แม้ในกาลยืดยาวนานฝ่ายอนาคต เมื่ออุปาทานไม่มี ภพย่อมไม่มี; . ญาณ คือ ความรู้ว่า แม้ ธัมมัฏฐิติญาณ ในกรณีนี้ ก็มีความสิ้นไป เสื่อมไป จางไป ดับไป เป็นธรรมดา;

 

(หมวด ๔)

 

. ญาณ คือ ความรู้ว่า เพราะมีตัณหาเป็นปัจจัย จึงมีอุปาทาน; . ญาณ คือ ความรู้ว่า เมื่อตัณหาไม่มี อุปาทานย่อมไม่มี; . ญาณ คือ ความรู้ว่า แม้ในกาลยืดยาวนานฝ่ายอดีต เพราะมีตัณหาเป็นปัจจัย จึงมีอุปทาน; . ญาณ คือ ความรู้ว่า แม้ในกาลยืดยาวนานฝ่ายอดีต เมื่อตัณหาไม่มี อุปาทานย่อมไม่มี; . ญาณ คือ ความรู้ว่า แม้ในกาลยืดยาวนานฝ่ายอนาคต เพราะมีตัณหาเป็นปัจจัย จึงมีอุปาทาน; . ญาณ คือ ความรู้ว่า แม้ในกาลยืดยาวนานฝ่ายอนาคต เมื่อตัณหาไม่มี อุปาทานย่อมไม่มี; . ญาณ คือ ความรู้ว่า แม้ ธัมมัฏฐิติญาณ ในกรณีนี้ ก็มีความสิ้นไป เสื่อมไป จางไป ดับไป เป็นธรรมดา;

 

(หมวด ๕)

 

. ญาณ คือ ความรู้ว่า เพราะมีเวทนาเป็นปัจจัย จึงมีตัณหา; . ญาณ คือ ความรู้ว่า เมื่อเวทนาไม่มี ตัณหาย่อมไม่มี; . ญาณ คือ ความรู้ว่า แม้ในกาลยืดยาวนานฝ่ายอดีต เพราะมีเวทนาเป็นปัจจัย จึงมีตัณหา; . ญาณ คือ ความรู้ว่า แม้ในกาลยืดยาวนานฝ่ายอดีต เมื่อเวทนาไม่มี ตัณหาย่อมไม่มี; . ญาณ คือ ความรู้ว่า แม้ในกาลยืดยาวนานฝ่ายอนาคต เพราะมีเวทนาเป็นปัจจัย จึงมีตัณหา; . ญาณ คือ ความรู้ว่า แม้ในกาลยืดยาวนานฝ่ายอนาคต เมื่อเวทนาไม่มี ตัณหาย่อมไม่มี; . ญาณ คือ ความรู้ว่า แม้ ธัมมัฏฐิติญาณ ในกรณีนี้ ก็มีความสิ้นไป เสื่อมไป จางไป ดับไป เป็นธรรมดา;

 

(หมวด ๖)

 

. ญาณ คือ ความรู้ว่า เพราะมีผัสสะเป็นปัจจัย จึงมีเวทนา; . ญาณ คือ ความรู้ว่า เมื่อผัสสะไม่มี เวทนาย่อมไม่มี; . ญาณ คือ ความรู้ว่า แม้ในกาลยืดยาวนานฝ่ายอดีต เพราะมีผัสสะเป็นปัจจัย จึงมีเวทนา; . ญาณ คือ ความรู้ว่า แม้ในกาลยืดยาวนานฝ่ายอดีต เมื่อผัสสะไม่มี เวทนาย่อมไม่มี; . ญาณ คือ ความรู้ว่า แม้ในกาลยืดยาวนานฝ่ายอนาคต เพราะมีผัสสะเป็นปัจจัย จึงมีเวทนา; . ญาณ คือ ความรู้ว่า แม้ในกาลยืดยาวนานฝ่ายอนาคต เมื่อผัสสะไม่มี เวทนาย่อมไม่มี; . ญาณ คือ ความรู้ว่า แม้ ธัมมัฏฐิติญาณ ในกรณีนี้ ก็มีความสิ้นไป เสื่อมไป จางไป ดับไป เป็นธรรมดา;

 

(หมวด ๗)

 

. ญาณ คือ ความรู้ว่า เพราะมีสฬายตนะเป็นปัจจัยจึงมีผัสสะ; . ญาณ คือ ความรู้ว่า เมื่อสฬายตนะไม่มี ผัสสะย่อมไม่มี; . ญาณ คือ ความรู้ว่า แม้ในกาลยืดยาวนานฝ่ายอดีต เพราะมีสฬายตนะเป็นปัจจัย จึงมีผัสสะ; . ญาณ คือ ความรู้ว่า แม้ในกาลยืดยาวนานฝ่ายอดีต เมื่อสฬายตนะไม่มี ผัสสะย่อมไม่มี; . ญาณ คือ ความรู้ว่า แม้ในกาลยืดยาวนานฝ่ายอนาคต เพราะมีสฬายตนะเป็นปัจจัย จึงมีผัสสะ; . ญาณ คือ ความรู้ว่า แม้ในกาลยืดยาวนานฝ่ายอนาคต เมื่อสฬายตนะไม่มี ผัสสะย่อมไม่มี; . ญาณ คือ ความรู้ว่า แม้ ธัมมัฏฐิติญาณ ในกรณีนี้ ก็มีความสิ้นไป เสื่อมไป จางไป ดับไป เป็นธรรมดา;

 

(หมวด ๘)

 

. ญาณ คือ ความรู้ว่า เพราะมีนามรูปเป็นปัจจัยจึงมีสฬายตนะ; . ญาณ คือ ความรู้ว่า เมื่อนามรูปไม่มี สฬายตนะย่อมไม่มี; . ญาณ คือ ความรู้ว่า แม้ในกาลยืดยาวนานฝ่ายอดีต เพราะมีนามรูปเป็นปัจจัย จึงมีสฬายตนะ; . ญาณ คือ ความรู้ว่า แม้ในกาลยืดยาวนานฝ่ายอดีต เมื่อนามรูปไม่มี สฬายตนะย่อมไม่มี; . ญาณ คือ ความรู้ว่า แม้ในกาลยืดยาวนานฝ่ายอนาคต เพราะมีนามรูปเป็นปัจจัย จึงมีสฬายตนะ; . ญาณ คือ ความรู้ว่า แม้ในกาลยืดยาวนานฝ่ายอนาคต เมื่อนามรูปไม่มี สฬายตนะย่อมไม่มี; . ญาณ คือ ความรู้ว่า แม้ ธัมมัฏฐิติญาณ ในกรณีนี้ ก็มีความสิ้นไป เสื่อมไป จางไป ดับไป เป็นธรรมดา;

 

(หมวด ๙)

 

. ญาณ คือ ความรู้ว่า เพราะมีวิญญาณเป็นปัจจัย จึงมีนามรูป; . ญาณ คือ ความรู้ว่า เมื่อวิญญาณไม่มี นามรูปย่อมไม่มี; . ญาณ คือ ความรู้ว่า แม้ในกาลยืดยาวนานฝ่ายอดีต เพราะมีวิญญาณเป็นปัจจัย จึงมีนามรูป; . ญาณ คือ ความรู้ว่า แม้ในกาลยืดยาวนานฝ่ายอดีต เมื่อวิญญาณไม่มี นามรูปย่อมไม่มี; . ญาณ คือ ความรู้ว่า แม้ในกาลยืดยาวนานฝ่ายอนาคต เพราะมีวิญญาณเป็นปัจจัย จึงมีนามรูป; . ญาณ คือ ความรู้ว่า แม้ในกาลยืดยาวนานฝ่ายอนาคต เมื่อวิญญาณไม่มี นามรูปย่อมไม่มี; . ญาณ คือ ความรู้ว่า แม้ ธัมมัฏฐิติญาณ ในกรณีนี้ ก็มีความสิ้นไป เสื่อมไป จางไป ดับไป เป็นธรรมดา;

 

(หมวด ๑๐)

 

. ญาณ คือ ความรู้ว่า เพราะมีสังขารเป็นปัจจัยจึงมีวิญญาณ; . ญาณ คือ ความรู้ว่า เมื่อสังขารทั้งหลายไม่มีวิญญาณ ย่อมไม่มี; . ญาณ คือ ความรู้ว่า แม้ในกาลยืดยาวนานฝ่ายอดีต เพราะมีสังขารเป็นปัจจัย จึงมีวิญญาณ; . ญาณ คือ ความรู้ว่า แม้ในกาลยืดยาวนานฝ่ายอดีต เมื่อสังขารทั้งหลายไม่มี วิญญาณย่อมไม่มี; . ญาณ คือ ความรู้ว่า แม้ในกาลยืดยาวนานฝ่ายอนาคต เพราะมีสังขารเป็นปัจจัย จึงมีวิญญาณ; . ญาณ คือ ความรู้ว่า แม้ในกาลยืดยาวนานฝ่ายอนาคต เมื่อสังขารทั้งหลายไม่มี วิญญาณย่อมไม่มี; . ญาณ คือ ความรู้ว่า แม้ ธัมมัฏฐิติญาณ ในกรณีนี้ ก็มีความสิ้นไป เสื่อมไป จางไป ดับไป เป็นธรรมดา;

 

(หมวดที่ ๑๑)

 

. ญาณ คือ ความรู้ว่า เพราะมีอวิชชาเป็นปัจจัยจึงมีสังขารทั้งหลาย; . ญาณ คือ ความรู้ว่า เมื่ออวิชชาไม่มี สังขารทั้งหลายย่อมไม่มี; . ญาณ คือ ความรู้ว่า แม้ในกาลยืดยาวนานฝ่ายอดีต เพราะมีอวิชชาเป็นปัจจัย จึงมีสังขารทั้งหลาย; . ญาณ คือ ความรู้ว่า แม้ในกาลยืดยาวนานฝ่ายอดีต เมื่ออวิชชาไม่มี สังขารทั้งหลายย่อมไม่มี; . ญาณ คือ ความรู้ว่า แม้ในกาลยืดยาวนานฝ่ายอนาคต เพราะมีอวิชชาเป็นปัจจัย จึงมีสังขารทั้งหลาย; . ญาณ คือ ความรู้ว่า แม้ในกาลยืดยาวนานฝ่ายอนาคต เมื่ออวิชชาไม่มี สังขารทั้งหลายย่อมไม่มี; . ญาณ คือ ความรู้ว่า แม้ ธัมมัฏฐิติญาณ ในกรณีนี้ ก็มีความสิ้นไป เสื่อมไป จางไป ดับไป เป็นธรรมดา.

 

 

 

ภิกษุทั้งหลาย ! เหล่านี้ เรียกว่า ญาณวัตถุ ๗๗อย่าง ดังนี้ แล.

 

 

 

(ภาษาไทย) นิทาน. สํ. ๑๖/๕๕-๕๘/๑๒๖-๑๒๗ : คลิกดูพระสูตร

 

 

 

 

//download.watnapahpong.org/data/faq/vdo_audio/0200/02000001_V_20120914_2ugGbUgw4Mo.mp4

Today515
Yesterday568
This week2870
This month7901
Total2365895

Who Is Online

9
Online