Buddhawajana FAQ

Thai (th)English (UK)

เวทนาในสายปฏิจจสมุปบาทมีความแตกต่างกับภพในสายปฏิจจสมุปบาทอย่างไร ในเมื่อเวทนาก็เป็นภพที่วิญญาณเข้าไปตั้งอาศัย

ให้เรตสมาชิก
ไม่ดีดี 

 

วิดีโอ

สนทนาธรรมค่ำเสาร์ วันที่ 16 มี.ค. 56

บรรยายธรรมโดย พระอาจารย์ คึกฤทธิ์ โสตฺถิผโล

วัดนาป่าพง ลำลูกกา คลอง 10 ปทุมธานี

ดาวน์โหลด : คลิกที่นี่

 

พระสูตรที่เกี่ยวข้อง

 

 

ปฏิจจสมุปบาท

 

ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราจักแสดง จักจำแนกปฏิจจสมุปบาทแก่พวกเธอ

พวกเธอจงฟังปฏิจจสมุปบาท นั้น จงใส่ใจให้ดีเถิด เราจักกล่าว

ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็ปฏิจจสมุปบาท เป็นไฉน  

 

ดูกรภิกษุทั้งหลาย

เพราะ  อวิชชาเป็นปัจจัย จึงมีสังขาร

เพราะ  สังขารเป็นปัจจัย จึงมีวิญญาณ

เพราะ  วิญญาณเป็นปัจจัย จึงมีนามรูป

เพราะ  นามรูปเป็นปัจจัย จึงมีสฬายตนะ

เพราะ  สฬายตนะเป็นปัจจัย จึงมีผัสสะ

เพราะ  ผัสสะเป็นปัจจัย จึงมีเวทนา

เพราะ  เวทนาเป็นปัจจัย จึงมีตัณหา

เพราะ  ตัณหาเป็นปัจจัย จึงมีอุปาทาน

เพราะ  อุปาทานเป็นปัจจัย จึงมีภพ

เพราะ. ภพ       เป็นปัจจัย จึงมีชาติ

เพราะ ชาติ. เป็นปัจจัย จึงมีชราและมรณะ โสกปริเทวทุกข์โทมนัสและอุปายาส ความเกิดขึ้นแห่งกองทุกข์ทั้งมวลนี้ ย่อมมีด้วยประการอย่างนี้ ฯ

 

              (ภาษาไทย) นิทาน. สํ. ๑๖/๒/๔-๕. : คลิกดูพระสูตร

 

 

ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ! พระองค์ตรัสอยู่ว่า เครื่องนำไปสู่ภพ เครื่องนำไปสู่ภพ’ ดังนี้

ก็เครื่องนำไปสู่ภพ เป็นอย่างไรเล่าพระเจ้าข้า ! และ

ความดับไม่เหลือของเครื่องนำไปสู่ภพนั้น เป็นอย่างไรเล่าพระเจ้าข้า !

 

ราธะ !

ฉันทะ (ความพอใจ) ก็ดี

ราคะ (ความกำหนัด) ก็ดี

นันทิ (ความเพลิน) ก็ดี

ตัณหา (ความอยาก) ก็ดี

อุปายะ (กิเลสเป็นเหตุเข้าไปสู่ภพ) และ

อุปาทาน (ความถือมั่นด้วยอำนาจกิเลส)

 

อันเป็นเครื่องตั้งทับ เครื่องเข้าไปอาศัย และเครื่องนอนเนื่องแห่งจิตก็ดีใดๆ

ในรูป ในเวทนา ในสัญญา ในสังขารทั้งหลาย และในวิญญาณ

กิเลสเหล่านี้ นี่เราเรียกว่า เครื่องนำไปสู่ภพ

ความดับไม่เหลือของเครื่องนำไปสู่ภพ มีได้

เพราะความดับไม่เหลือของกิเลส มีฉันทะ ราคะ เป็นต้น เหล่านั้นเอง.

 

หนังสือภพภูมิ หน้า  ๘

(ภาษาไทย)  ขนฺธ. สํ. ๑๗/๑๙๒/๓๖๘. คลิกดูพระสูตร 

 

 

 

 

ภิกษุ ท. ! ถ้าไม่มีราคะ  ไม่มีนันทิ   ไม่มีตัณหา  

ในอาหาร คือ คำข้าว ก็ดี  

ในอาหาร คือ ผัสสะ ก็ดี  

ในอาหาร คือ มโนสัญเจตนา ก็ดี  

ในอาหารคือ วิญญาณ ก็ดี  แล้วไซร้

 

วิญญาณก็เป็นสิ่งที่ตั้งอยู่ไม่ได้ เจริญงอกงามอยู่ไม่ได้ในสิ่งนั้น ๆ.  

วิญญาณตั้งอยู่ไม่ได้  เจริญงอกงามอยู่ไม่ได้ในที่ใด

การก้าวลงแห่งนามรูป  ย่อมไม่มีในที่นั้น ;    

 

การก้าวลงแห่งนามรูปไม่มีในที่ใด, 

ความเจริญแห่งสังขารทั้งหลาย    ย่อมไม่มีในที่นั้น ;

 

ความเจริญแห่งสังขารทั้งหลาย  ไม่มีในที่ใด

การบังเกิดในภพใหม่ต่อไป ย่อมไม่มีในที่นั้น ;

 

การบังเกิดในภพใหม่ต่อไป ไม่มีในที่ใด

ชาติชราและมรณะต่อไปย่อมไม่มีในที่นั้น ;  

 

ชาติชราและมรณะต่อไป ไม่มีในที่ใด,    

ภิกษุ ท. ! เราเรียก ที่ นั้นว่าเป็น 

ที่ไม่โศก  ไม่มีธุลี  และไม่มีความคับแค้น” ดังนี้.

 

ภิกษุ ท. ! เปรียบเหมือนเรือนยอด หรือศาลาเรือนยอด ที่ตั้งอยู่ทางทิศเหนือหรือใต้ก็ตาม เป็นเรือนมีหน้าต่างทางทิศตะวันออก. ครั้นดวงอาทิตย์ขึ้นมา   แสงสว่างแห่งดวงอาทิตย์ส่งเข้าไปทางช่องหน้าต่างแล้ว  จักตั้งอยู่ที่ส่วนไหนแห่งเรือนนั่นเล่า ?

 

ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ !  

แสงสว่างแห่งดวงอาทิตย์ จักปรากฏที่ฝาเรือนข้างในด้านทิศตะวันตก พระเจ้าข้า !

 

ภิกษุ ท. ! ถ้าฝาเรือนทางทิศตะวันตกไม่มีเล่า แสงแห่งดวงอาทิตย์นั้น

จักปรากฏอยู่ที่ไหน ?

 

ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ !    

แสงสว่างแห่งดวงอาทิตย์นั้น  จักปรากฏที่พื้นดิน  พระเจ้าข้า !

 

ภิกษุ ท. ! ถ้าพื้นดินไม่มีเล่า แสงสว่างแห่งดวงอาทิตย์นั้น จักปรากฏที่ไหน ?

 

ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ !  

แสงสว่างแห่งดวงอาทิตย์นั้น จักปรากฏในน้ำ พระเจ้าข้า !

 

ภิกษุ ท. ! ถ้าน้ำไม่มีเล่า แสงสว่างแห่งดวงอาทิตย์นั้น จักปรากฏที่ไหนอีก?

 

ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ !

แสงสว่างแห่งดวงอาทิตย์นั้น  ย่อมเป็นสิ่งที่ไม่ปรากฏแล้วพระเจ้าข้า !

 

ภิกษุ ท. ! ฉันใดก็ฉันนั้นแล : ถ้าไม่มีราคะ ไม่มีนันทิ  ไม่มีตัณหา

ในอาหาร คือคำข้าว ก็ดี      

ในอาหาร คือผัสสะ ก็ดี

ในอาหาร คือมโนสัญเจตนา ก็ดี  

ในอาหาร คือวิญญาณ ก็ดี แล้วไซร้,            

 

วิญญาณก็เป็นสิ่งที่ตั้งอยู่ไม่ได้ เจริญงอกงามอยู่ไม่ได้  

ในอาหารคือคำข้าว  เป็นต้นนั้น ๆ.  

 

วิญญาณตั้งอยู่ไม่ได้ เจริญงอกงามอยู่ไม่ได้ในที่ใด

การก้าวลงแห่งนามรูป ย่อมไม่มีในที่นั้น;

 

การก้าวลงแห่งนามรูปไม่มีในที่ใด,  

ความเจริญแห่งสังขารทั้งหลายย่อมไม่มีในที่นั้น 

 

ความเจริญแห่งสังขารทั้งหลายไม่มีในที่ใด,  

การบังเกิดในภพใหม่ต่อไป  ย่อมไม่มีในที่นั้น 

 

การบังเกิดในภพใหม่ต่อไป  ไม่มีในที่ใด

ชาติชราและมรณะต่อไป ย่อมไม่มีในที่นั้น 

 

ชาติชรามรณะต่อไป ไม่มีในที่ใด,

ภิกษุ  ท. !  เราเรียก  ที่”  นั้น  ว่าเป็น 

ที่ไม่โศก ไม่มีธุลี และ ไม่มีความคับแค้น”  ดังนี้.

 

(ภาษาไทย) นิทาน. สํ. ๑๖/๑๐๑-๑๐๒/๒๔๘-๒๔๙. : คลิกดูพระสูตร

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

Today41
Yesterday406
This week447
This month10247
Total2357590

Who Is Online

29
Online