Buddhawajana FAQ

Thai (th)English (UK)

มรรค ๘ ต้องเริ่มที่สัมมาทิฏฐิหรือไม่

ให้เรตสมาชิก
ไม่ดีดี 

 

วิดีโอ

 

บรรยายธรรมโดย พระอาจารย์ คึกฤทธิ์ โสตฺถิผโล

วัดนาป่าพง ลำลูกกา คลอง ๑๐ ปทุมธานี

ดาวน์โหลด : mp4, mp3

พระสูตรที่เกี่ยวข้อง

 

ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทาอริยสัจเป็นไฉน นี้คือ

มรรคมีองค์ ๘ อันประเสริฐ คือ

สัมมาทิฏฐิ สัมมาสังกัปปะ สัมมาวาจา

สัมมากัมมันตะ สัมมาอาชีวะ สัมมาวายามะ

สัมมาสติ สัมมาสมาธิ

 

ก็สัมมาทิฏฐิเป็นไฉน

ความรู้ในทุกข์

ความรู้ในทุกขสมุทัย

ความรู้ใน ทุกขนิโรธ

ความรู้ในทุกขนิโรธคามินีปฏิปทา

อันนี้เรียกว่า สัมมาทิฏฐิ ฯ

 

  (ไทย) มหา. ที. ๑๐/๒๓๑/๒๙๙.คลิกดูพระสูตร

(บาลี) มหา. ที. ๑๐/๓๔๓/๒๙๙.คลิกดูพระสูตร

 

 

ภิกษุทั้งหลาย!ก็ญาณวัตถุ ๔๔ อย่างเป็นอย่างไรเล่า?ญาณวัตถุ ๔๔ อย่างคือ:-

 

(หมวด ๑)     ๑.ญาณคือความรู้ในชรามรณะ;

.ญาณคือความรู้ในเหตุให้เกิดขึ้นแห่งชรามรณะ;

.ญาณคือความรู้ในความดับไม่เหลือแห่งชรามรณะ;

.ญาณคือความรู้ในข้อปฏิบัติเครื่องทำสัตว์ให้ลุถึงความดับไม่เหลือแห่งชรามรณะ;

 

(หมวด ๒)    ๑.ญาณคือความรู้ในชาติ;

.ญาณคือความรู้ในเหตุให้เกิดขึ้นแห่งชาติ;

.ญาณคือความรู้ในความดับไม่เหลือแห่งชาติ;

.ญาณคือความรู้ในข้อปฏิบัติเครื่องทำสัตว์ให้ลุถึงความดับไม่เหลือแห่งชาติ;

 

(หมวด ๓)    ๑.ญาณคือความรู้ในภพ;

.ญาณคือความรู้ในเหตุให้เกิดขึ้นแห่งภพ;

.ญาณคือความรู้ในความดับไม่เหลือแห่งภพ;

.ญาณคือความรู้ในข้อปฏิบัติเครื่องทำสัตว์ให้ลุถึงความดับไม่เหลือแห่งภพ;

 

(หมวด ๔)     ๑.ญาณคือความรู้ในอุปาทาน;

.ญาณคือความรู้ในเหตุให้เกิดขึ้นแห่งอุปาทาน;

.ญาณคือความรู้ในความดับไม่เหลือแห่งอุปาทาน;

.ญาณคือความรู้ในข้อปฏิบัติเครื่องทำสัตว์ให้ลุถึงความดับไม่เหลือแห่งอุปาทาน;

 

(หมวด ๕)     ๑.ญาณคือความรู้ในตัณหา;

.ญาณคือความรู้ในเหตุให้เกิดขึ้นแห่งตัณหา;

.ญาณคือความรู้ในความดับไม่เหลือแห่งตัณหา;

.ญาณคือความรู้ในข้อปฏิบัติเครื่องทำสัตว์ให้ลุถึงความดับไม่เหลือแห่งตัณหา;

 

(หมวด ๖)     ๑.ญาณคือความรู้ในเวทนา;

.ญาณคือความรู้ในเหตุให้เกิดขึ้นแห่งเวทนา;

.ญาณคือความรู้ในความดับไม่เหลือแห่งเวทนา;

.ญาณคือความรู้ในข้อปฏิบัติเครื่องทำสัตว์ให้ลุถึงความดับไม่เหลือแห่งเวทนา;

 

 

(หมวด ๗)    ๑.ญาณคือความรู้ในผัสสะ;

.ญาณคือความรู้ในเหตุให้เกิดขึ้นแห่งผัสสะ;

.ญาณคือความรู้ในความดับไม่เหลือแห่งผัสสะ;

.ญาณคือความรู้ในข้อปฏิบัติเครื่องทำสัตว์ให้ลุถึงความดับไม่เหลือแห่งผัสสะ;

 

 

(หมวด ๘)     ๑.ญาณคือความรู้ในสฬายตนะ;

.ญาณคือความรู้ในเหตุให้เกิดขึ้นแห่งสฬายตนะ;

.ญาณคือความรู้ในความดับไม่เหลือแห่งสฬายตนะ;

.ญาณคือความรู้ในข้อปฏิบัติเครื่องทำสัตว์ให้ลุถึงความดับไม่เหลือแห่งสฬายตนะ;

 

(หมวด ๙)    ๑.ญาณคือความรู้ในนามรูป;

.ญาณคือความรู้ในเหตุให้เกิดขึ้นแห่งนามรูป;

.ญาณคือความรู้ในความดับไม่เหลือแห่งนามรูป;

.ญาณคือความรู้ในข้อปฏิบัติเครื่องทำสัตว์ให้ลุถึงความดับไม่เหลือแห่งนามรูป;

 

(หมวด ๑๐)   ๑.ญาณคือความรู้ในวิญญาณ;

.ญาณคือความรู้ในเหตุให้เกิดขึ้นแห่งวิญญาณ;

.ญาณคือความรู้ในความดับไม่เหลือแห่งวิญญาณ;

.ญาณคือความรู้ในข้อปฏิบัติเครื่องทำสัตว์ให้ลุถึงความดับไม่เหลือแห่งวิญญาณ;

 

(หมวด ๑๑)   ๑.ญาณคือความรู้ในสังขารทั้งหลาย;

.ญาณคือความรู้ในเหตุให้เกิดขึ้นแห่งสังขาร;

.ญาณคือความรู้ในความดับไม่เหลือแห่งสังขาร;

.ญาณคือความรู้ในข้อปฏิบัติเครื่องทำสัตว์ให้ลุถึงความดับไม่เหลือแห่งสังขาร

 

           ภิกษุทั้งหลาย!เหล่านี้เรียกว่าญาณวัตถุ ๔๔ อย่าง.

 

 

(ไทย)นิทาน.สํ.๑๖/๕๒-๕๕/๑๑๘-๑๒๕.คลิกดูพระสูตร

(บาลี)นิทาน. สํ. ๑๖/๖๖-๗๐/๑๑๘-๑๒๕.คลิกดูพระสูตร

 

 

ภิกษุทั้งหลาย!ก็ญาณวัตถุ ๗๗ อย่างเป็นอย่างไรเล่า?

ญาณวัตถุ๗๗อย่างนั้นคือ:-

 

(หมวด ๑)    ๑.ญาณคือความรู้ว่าเพราะมีชาติเป็นปัจจัยจึงมีชรามรณะ;

.ญาณคือความรู้ว่าเมื่อชาติไม่มีชรามรณะย่อมไม่มี;

.ญาณคือความรู้ว่าแม้ในกาลยืดยาวนานฝ่ายอดีตเพราะมีชาติเป็นปัจจัยจึงมีชรามรณะ;

.ญาณคือความรู้ว่าแม้ในกาลยืดยาวนานฝ่ายอดีตเมื่อชาติไม่มีชรามรณะย่อมไม่มี;

.ญาณคือความรู้ว่าแม้ในกาลยืดยาวนานฝ่ายอนาคตเพราะมีชาติเป็นปัจจัยจึงมีชรามรณะ;

.ญาณคือความรู้ว่าแม้ในกาลยืดยาวนานฝ่ายอนาคตเมื่อชาติไม่มีชรามรณะย่อมไม่มี;

.ญาณคือความรู้ว่าแม้ธัมมัฏฐิติญาณในกรณีนี้ก็มีความสิ้นไปเสื่อมไปจางไปดับไปเป็นธรรมดา;

 

(หมวด ๒)    ๑.ญาณคือความรู้ว่าเพราะมีภพเป็นปัจจัยจึงมีชาติ;

.ญาณคือความรู้ว่าเมื่อภพไม่มีชาติย่อมไม่มี;

.ญาณคือความรู้ว่าแม้ในกาลยืดยาวนานฝ่ายอดีตเพราะมีภพเป็นปัจจัยจึงมีชาติ;

.ญาณคือความรู้ว่าแม้ในกาลยืดยาวนานฝ่ายอดีตเมื่อภพไม่มีชาติย่อมไม่มี;

.ญาณคือความรู้ว่าแม้ในกาลยืดยาวนานฝ่ายอนาคตเพราะมีภพเป็นปัจจัยจึงมีชาติ;

.ญาณคือความรู้ว่าแม้ในกาลยืดยาวนานฝ่ายอนาคตเมื่อภพไม่มีชาติย่อมไม่มี;

.ญาณคือความรู้ว่าแม้ธัมมัฏฐิติญาณในกรณีนี้ก็มีความสิ้นไปเสื่อมไปจางไปดับไปเป็นธรรมดา;

 

(หมวด ๓)    ๑.ญาณคือความรู้ว่าเพราะมีอุปาทานเป็นปัจจัยจึงมีภพ;

.ญาณคือความรู้ว่าเมื่ออุปาทานไม่มีภพย่อมไม่มี;

.ญาณคือความรู้ว่าแม้ในกาลยืดยาวนานฝ่ายอดีตเพราะมีอุปาทานเป็นปัจจัยจึงมีภพ;

.ญาณคือความรู้ว่าแม้ในกาลยืดยาวนานฝ่ายอดีตเมื่ออุปาทานไม่มีภพย่อมไม่มี;

.ญาณคือความรู้ว่าแม้ในกาลยืดยาวนานฝ่ายอนาคตเพราะมีอุปาทานเป็นปัจจัยจึงมีภพ;

.ญาณคือความรู้ว่าแม้ในกาลยืดยาวนานฝ่ายอนาคตเมื่ออุปาทานไม่มีภพย่อมไม่มี;

.ญาณคือความรู้ว่าแม้ธัมมัฏฐิติญาณในกรณีนี้ก็มีความสิ้นไปเสื่อมไปจางไปดับไปเป็นธรรมดา;

 

(หมวด ๔)    ๑.ญาณคือความรู้ว่าเพราะมีตัณหาเป็นปัจจัยจึงมีอุปาทาน;

.ญาณคือความรู้ว่าเมื่อตัณหาไม่มีอุปาทานย่อมไม่มี;

.ญาณคือความรู้ว่าแม้ในกาลยืดยาวนานฝ่ายอดีตเพราะมีตัณหาเป็นปัจจัยจึงมีอุปทาน;

.ญาณคือความรู้ว่าแม้ในกาลยืดยาวนานฝ่ายอดีตเมื่อตัณหาไม่มีอุปาทานย่อมไม่มี;

.ญาณคือความรู้ว่าแม้ในกาลยืดยาวนานฝ่ายอนาคตเพราะมีตัณหาเป็นปัจจัยจึงมีอุปาทาน;

.ญาณคือความรู้ว่าแม้ในกาลยืดยาวนานฝ่ายอนาคตเมื่อตัณหาไม่มีอุปาทานย่อมไม่มี;

.ญาณคือความรู้ว่าแม้ธัมมัฏฐิติญาณในกรณีนี้ก็มีความสิ้นไปเสื่อมไปจางไปดับไปเป็นธรรมดา;

 

(หมวด ๕)    ๑.ญาณคือความรู้ว่าเพราะมีเวทนาเป็นปัจจัยจึงมีตัณหา;

.ญาณคือความรู้ว่าเมื่อเวทนาไม่มีตัณหาย่อมไม่มี;

.ญาณคือความรู้ว่าแม้ในกาลยืดยาวนานฝ่ายอดีตเพราะมีเวทนาเป็นปัจจัยจึงมีตัณหา;

.ญาณคือความรู้ว่าแม้ในกาลยืดยาวนานฝ่ายอดีตเมื่อเวทนาไม่มีตัณหาย่อมไม่มี;

.ญาณคือความรู้ว่าแม้ในกาลยืดยาวนานฝ่ายอนาคตเพราะมีเวทนาเป็นปัจจัยจึงมีตัณหา;

.ญาณคือความรู้ว่าแม้ในกาลยืดยาวนานฝ่ายอนาคตเมื่อเวทนาไม่มีตัณหาย่อมไม่มี;

.ญาณคือความรู้ว่าแม้ธัมมัฏฐิติญาณในกรณีนี้ก็มีความสิ้นไปเสื่อมไปจางไปดับไปเป็นธรรมดา;

 

(หมวด ๖)    ๑.ญาณคือความรู้ว่าเพราะมีผัสสะเป็นปัจจัยจึงมีเวทนา;

.ญาณคือความรู้ว่าเมื่อผัสสะไม่มีเวทนาย่อมไม่มี;

.ญาณคือความรู้ว่าแม้ในกาลยืดยาวนานฝ่ายอดีตเพราะมีผัสสะเป็นปัจจัยจึงมีเวทนา;

.ญาณคือความรู้ว่าแม้ในกาลยืดยาวนานฝ่ายอดีตเมื่อผัสสะไม่มีเวทนาย่อมไม่มี;

.ญาณคือความรู้ว่าแม้ในกาลยืดยาวนานฝ่ายอนาคตเพราะมีผัสสะเป็นปัจจัยจึงมีเวทนา;

.ญาณคือความรู้ว่าแม้ในกาลยืดยาวนานฝ่ายอนาคตเมื่อผัสสะไม่มีเวทนาย่อมไม่มี;

.ญาณคือความรู้ว่าแม้ธัมมัฏฐิติญาณในกรณีนี้ก็มีความสิ้นไปเสื่อมไปจางไปดับไปเป็นธรรมดา;

 

(หมวด ๗)    ๑.ญาณคือความรู้ว่าเพราะมีสฬายตนะเป็นปัจจัยจึงมีผัสสะ;

. ญาณคือความรู้ว่าเมื่อสฬายตนะไม่มีผัสสะย่อมไม่มี;

.ญาณคือความรู้ว่าแม้ในกาลยืดยาวนานฝ่ายอดีตเพราะมีสฬายตนะเป็นปัจจัยจึงมีผัสสะ;

.ญาณคือความรู้ว่าแม้ในกาลยืดยาวนานฝ่ายอดีตเมื่อสฬายตนะไม่มีผัสสะย่อมไม่มี;

.ญาณคือความรู้ว่าแม้ในกาลยืดยาวนานฝ่ายอนาคตเพราะมีสฬายตนะเป็นปัจจัยจึงมีผัสสะ;

.ญาณคือความรู้ว่าแม้ในกาลยืดยาวนานฝ่ายอนาคตเมื่อสฬายตนะไม่มีผัสสะย่อมไม่มี;

.ญาณคือความรู้ว่าแม้ธัมมัฏฐิติญาณในกรณีนี้ก็มีความสิ้นไปเสื่อมไปจางไปดับไปเป็นธรรมดา;

 

(หมวด ๘)    ๑.ญาณคือความรู้ว่าเพราะมีนามรูปเป็นปัจจัยจึงมีสฬายตนะ;

.ญาณคือความรู้ว่าเมื่อนามรูปไม่มีสฬายตนะย่อมไม่มี;

.ญาณคือความรู้ว่าแม้ในกาลยืดยาวนานฝ่ายอดีตเพราะมีนามรูปเป็นปัจจัยจึงมีสฬายตนะ;

.ญาณคือความรู้ว่าแม้ในกาลยืดยาวนานฝ่ายอดีตเมื่อนามรูปไม่มีสฬายตนะย่อมไม่มี;

.ญาณคือความรู้ว่าแม้ในกาลยืดยาวนานฝ่ายอนาคตเพราะมีนามรูปเป็นปัจจัยจึงมีสฬายตนะ;

.ญาณคือความรู้ว่าแม้ในกาลยืดยาวนานฝ่ายอนาคตเมื่อนามรูปไม่มีสฬายตนะย่อมไม่มี;

.ญาณคือความรู้ว่าแม้ธัมมัฏฐิติญาณในกรณีนี้ก็มีความสิ้นไปเสื่อมไปจางไปดับไปเป็นธรรมดา;

 

(หมวด ๙)    ๑.ญาณคือความรู้ว่าเพราะมีวิญญาณเป็นปัจจัยจึงมีนามรูป;

.ญาณคือความรู้ว่าเมื่อวิญญาณไม่มีนามรูปย่อมไม่มี;

.ญาณคือความรู้ว่าแม้ในกาลยืดยาวนานฝ่ายอดีตเพราะมีวิญญาณเป็นปัจจัยจึงมีนามรูป;

.ญาณคือความรู้ว่าแม้ในกาลยืดยาวนานฝ่ายอดีตเมื่อวิญญาณไม่มีนามรูปย่อมไม่มี;

.ญาณคือความรู้ว่าแม้ในกาลยืดยาวนานฝ่ายอนาคตเพราะมีวิญญาณเป็นปัจจัยจึงมีนามรูป;

.ญาณคือความรู้ว่าแม้ในกาลยืดยาวนานฝ่ายอนาคตเมื่อวิญญาณไม่มีนามรูปย่อมไม่มี;

.ญาณคือความรู้ว่าแม้ธัมมัฏฐิติญาณในกรณีนี้ก็มีความสิ้นไปเสื่อมไปจางไปดับไปเป็นธรรมดา;

 

(หมวด ๑๐)  ๑.ญาณคือความรู้ว่าเพราะมีสังขารเป็นปัจจัยจึงมีวิญญาณ;

.ญาณคือความรู้ว่าเมื่อสังขารทั้งหลายไม่มีวิญญาณย่อมไม่มี;

.ญาณคือความรู้ว่าแม้ในกาลยืดยาวนานฝ่ายอดีตเพราะมีสังขารเป็นปัจจัยจึงมีวิญญาณ;

.ญาณคือความรู้ว่าแม้ในกาลยืดยาวนานฝ่ายอดีตเมื่อสังขารทั้งหลายไม่มีวิญญาณย่อมไม่มี;

.ญาณคือความรู้ว่าแม้ในกาลยืดยาวนานฝ่ายอนาคตเพราะมีสังขารเป็นปัจจัยจึงมีวิญญาณ;

.ญาณคือความรู้ว่าแม้ในกาลยืดยาวนานฝ่ายอนาคตเมื่อสังขารทั้งหลายไม่มีวิญญาณย่อมไม่มี;

.ญาณคือความรู้ว่าแม้ธัมมัฏฐิติญาณในกรณีนี้ก็มีความสิ้นไปเสื่อมไปจางไปดับไปเป็นธรรมดา;

 

(หมวดที่ ๑๑).ญาณคือความรู้ว่าเพราะมีอวิชชาเป็นปัจจัยจึงมีสังขารทั้งหลาย;

.ญาณคือความรู้ว่าเมื่ออวิชชาไม่มีสังขารทั้งหลายย่อมไม่มี;

.ญาณคือความรู้ว่าแม้ในกาลยืดยาวนานฝ่ายอดีตเพราะมีอวิชชาเป็นปัจจัยจึงมีสังขารทั้งหลาย;

.ญาณคือความรู้ว่าแม้ในกาลยืดยาวนานฝ่ายอดีตเมื่ออวิชชาไม่มีสังขารทั้งหลายย่อมไม่มี;

.ญาณคือความรู้ว่าแม้ในกาลยืดยาวนานฝ่ายอนาคตเพราะมีอวิชชาเป็นปัจจัยจึงมีสังขารทั้งหลาย;

.ญาณคือความรู้ว่าแม้ในกาลยืดยาวนานฝ่ายอนาคตเมื่ออวิชชาไม่มีสังขารทั้งหลายย่อมไม่มี;

.ญาณคือความรู้ว่าแม้ธัมมัฏฐิติญาณในกรณีนี้ก็มีความสิ้นไปเสื่อมไปจางไปดับไปเป็นธรรมดา.

 

ภิกษุทั้งหลาย!เหล่านี้เรียกว่าญาณวัตถุ ๗๗ อย่างดังนี้แล.

 

(ไทย)นิทาน.สํ.๑๖/๕๕-๕๘/๑๒๖-๑๒๗.คลิกดูพระสูตร

(บาลี) นิทาน. สํ. ๑๖/๗๐-๗๓/๑๒๖-๑๒๗.คลิกดูพระสูตร

 

 

 

 

Today365
Yesterday406
This week771
This month10571
Total2357914

Who Is Online

13
Online